วันอังคาร, 6 พฤษภาคม 2568
/home2/cp449816/public_html/khaothai.info/wp-content/themes/smartvariety_1.0.7/template-parts/search-form-xs.php on line 7
" placeholder="ค้นหา">

กมธ.เกษตรฯ ลงพื้นที่มุกดาหาร ตรวจสอบโรคแอนแทรกซ์ – ปศุสัตว์เร่งฉีดวัคซีนคุมโรค สร้างความมั่นใจให้ชาวบ้าน

ประธาน กมธ.เกษตรฯ พร้อมคณะ ลงพื้นที่บ้านโคกสว่าง จ.มุกดาหาร ตรวจสอบสถานการณ์โรคแอนแทรกซ์ หลังมีผู้เสียชีวิต 1 ราย พร้อมเดินหน้าควบคุมโรคในวงจำกัด


มุกดาหาร – เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2568 นายณรงเดช อุฬารกุล ประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายนกร ชารีพันธ์ ส.ส.มุกดาหาร เขต 2 พรรคประชาชน และคณะ ลงพื้นที่ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดมุกดาหาร เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคแอนแทรกซ์ในพื้นที่บ้านโคกสว่าง ต.เหล่าหมี อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร

การประชุมมีนายสัตวแพทย์ต่อพงศ์ ประเสริฐสังข์ ปศุสัตว์จังหวัดมุกดาหาร นายณรงค์ รัตนตรัยวงศ์ หัวหน้าด่านกักกันสัตว์มุกดาหาร นายชาคริต ชุมจันทร์ นายอำเภอดอนตาล ปศุสัตว์อำเภอทั้ง 7 แห่ง และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

นายสัตวแพทย์ต่อพงศ์ เปิดเผยว่า โรคแอนแทรกซ์เป็นโรคที่สามารถติดต่อจากสัตว์สู่คนได้ การควบคุมจึงต้องรวดเร็วและรัดกุม เบื้องต้นได้ดำเนินการฉีดยาปฏิชีวนะให้โค กระบือ แพะ และแกะ ครอบคลุมในพื้นที่เสี่ยง ทั้งในอ.ดอนตาล อ.เมือง และอ.หว้านใหญ่ รวมถึงการเฝ้าระวังสัตว์ที่ตายผิดปกติทุกราย

ในด้านการควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์ นายณรงเดช กล่าวว่าจำเป็นต้องมีมาตรการที่เข้มงวด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่สงสัยว่าเป็นต้นตอของโรค พร้อมเรียกร้องให้กรมปศุสัตว์ปรับปรุงกฎหมายควบคุมการเชือดและการเคลื่อนย้ายซากสัตว์ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าชาวบ้านมีความกังวล โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว อย่างไรก็ตาม หลายครัวเรือนรู้สึกสบายใจขึ้นหลังได้รับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งมีทีมแพทย์และ อสม. ลงพื้นที่ติดตามสภาพจิตใจประชาชนอย่างใกล้ชิด

ด้านนางกัญญารัตน์ คนไว เจ้าของคอกวัวในพื้นที่ ยอมรับว่าวัวที่ถูกนำไปชำแหละนั้นอาจเป็นของตนเอง แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากไม่มีภาพของวัวที่ตายให้ตรวจสอบ

ข้อมูลจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร ณ วันที่ 4 พฤษภาคม 2568 พบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 1 ราย รวมสะสม 3 ราย เสียชีวิต 1 ราย และยังมีผู้ป่วยเข้าข่ายอีก 1 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างเฝ้าระวังผู้สัมผัสรวม 98 ราย ซึ่งลดลงจากเดิม 2 รายหลังผลตรวจยืนยันเป็นผู้ป่วยแล้ว

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายยังคงดำเนินการควบคุมและตรวจสอบหาสาเหตุของโรคอย่างต่อเนื่อง พร้อมย้ำให้ประชาชนในพื้นที่ใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวังและติดตามข้อมูลจากทางราชการอย่างใกล้ชิด