วันพฤหัสบดี, 4 กันยายน 2568
/home2/cp449816/public_html/khaothai.info/wp-content/themes/smartvariety_1.0.7/template-parts/search-form-xs.php on line 7
" placeholder="ค้นหา">

เพชรบูรณ์ ญาติบริจาคอวัยวะหญิงวัย 54 ปี ลื่นล้มศีรษะฟาดหลังมีภาวะสมองตาย ช่วยต่อชีวิตผู้ป่วยได้อีก 4 ราย

ความสูญเสียครั้งใหญ่ของครอบครัวใน อ.เมืองเพชรบูรณ์ กลับกลายเป็นแสงแห่งความหวังให้แก่ผู้ป่วยอีกหลายชีวิต เมื่อ นางสาวรัตนา สำราญพันธ์ อายุ 54 ปี ชาวบ้านเลขที่ 30/2 หมู่ 3 ตำบลวังชมภู อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ประสบอุบัติเหตุลื่นล้มในห้องน้ำจนเกิดภาวะสมองตาย ญาติ ๆ ตัดสินใจบริจาคอวัยวะทุกส่วนที่สามารถนำไปช่วยเหลือผู้อื่นได้ ส่งผลให้มีผู้ป่วยถึง 4 รายได้รับโอกาสใหม่ในการมีชีวิต

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ นายแพทย์ศิริชัย สรธัชธำรง รองผู้อำนวยการภารกิจด้านพัฒนาระบบบริการและสนับสนุนบริการสุขภาพ โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยตัวแทนเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้มอบหรีดเคารพศพและประกาศเกียรติคุณแก่ครอบครัวของนางสาวรัตนา เพื่อยกย่องในความเสียสละอันยิ่งใหญ่ โดยมี นางสาวณภัทรฐนัน ศรีบัวรินทร์ น้องสาวผู้เสียชีวิต เป็นตัวแทนรับมอบ

นางสาวณภัทรฐนัน เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า พี่สาวของตนป่วยด้วยโรคหลอดเลือดในสมองตีบมานานและมักมีอาการวูบอยู่เป็นประจำ กระทั่งเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา ขณะพี่สาวเข้าห้องน้ำ คาดว่าเกิดอาการหน้ามืดจนลื่นล้มศีรษะกระแทกพื้น ญาติรีบนำส่งโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ซึ่งแพทย์ตรวจพบมีเลือดคั่งในสมองปริมาณมาก จึงเข้ารับการผ่าตัดด่วน แต่แม้จะพยายามยื้อชีวิตอย่างเต็มที่ อาการก็ไม่ดีขึ้น และหลังผ่านไป 3 วัน แพทย์ยืนยันว่าเข้าสู่ภาวะสมองตาย ซึ่งในทางการแพทย์ถือว่าเสียชีวิตแล้ว

“พวกเราพี่น้องปรึกษากันและเห็นตรงกันว่า ควรบริจาคอวัยวะทุกส่วนที่สามารถนำไปช่วยเหลือคนอื่นได้ เพื่อเป็นการทำบุญครั้งสุดท้ายให้พี่สาว เราอธิษฐานว่าขอให้บุญนี้ส่งให้วิญญาณพี่ไปสู่สุคติ และหากมีชาติหน้าจริง ขอให้พี่เกิดมามีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัยใด ๆ” นางสาวณภัทรฐนัน กล่าวด้วยความโศกเศร้า

ด้าน นางชไมพร ศรีทอง หัวหน้าศูนย์รับบริจาคอวัยวะ โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่แพทย์ยืนยันภาวะสมองตาย ญาติได้แสดงเจตจำนงชัดเจนว่าขอบริจาคอวัยวะทุกส่วนที่สามารถนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยได้ โดยอวัยวะที่นำไปใช้ได้ ได้แก่ ดวงตา 2 ข้าง และไต 2 ข้าง ซึ่งจะสามารถต่อชีวิตให้ผู้ป่วยได้อย่างน้อย 4 ราย

“การตัดสินใจของครอบครัวนี้ถือเป็นแบบอย่างที่งดงามและน่ายกย่อง เพราะไม่เพียงแต่ช่วยชีวิตผู้ป่วยที่รอคอยอวัยวะเท่านั้น แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้คนในสังคมตระหนักถึงคุณค่าของการบริจาคอวัยวะ ซึ่งเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์” นางชไมพร กล่าว

แม้ร่างกายของ นางสาวรัตนา สำราญพันธ์ จะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่ความเมตตาที่เธอและครอบครัวมอบไว้ยังคงดำรงอยู่ในร่างของผู้ที่ได้รับโอกาสครั้งใหม่ เรื่องราวนี้จึงไม่เพียงเป็นบันทึกของการสูญเสีย แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของ “การให้ที่ไม่สิ้นสุด”