
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2568 ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดเพชรบูรณ์ (ศปถ.จ.พช.) รายงานภาพรวมมาตรการดูแลความปลอดภัยกรณีกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์รวมตัวจัดกิจกรรม “ทริปน้ำไม่อาบ” ในพื้นที่อำเภอหล่มเก่า–อำเภอเขาค้อ ระหว่างวันที่ 22–23 พฤศจิกายน 2568 มีรถเข้าร่วมกว่า 7,000 คัน เจ้าหน้าที่ระดมกำลังเข้มตั้งแต่ประชาสัมพันธ์ ไปจนถึงกวดขันจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายจราจรและกฎหมายเกี่ยวกับรถยนต์
ตลอดสองวันเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายรวม 1,992 ราย จำแนกความผิด ได้แก่ ท่อดัง 96 ราย, อุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบ 1,495 ราย, ไม่สวมหมวกนิรภัย 72 ราย, ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 56 ราย, ไม่เสียภาษี 35 ราย, ขับเสพ 1 ราย, ขับรถกีดขวาง 5 ราย, เปลี่ยนแปลงสภาพรถผิดกฎหมาย 24 ราย, ไม่ได้รับอนุญาตขับรถ (สไลด์) 1 ราย และขับรถโดยไม่ได้รับอนุญาต 207 ราย
มีการตรวจรถจักรยานยนต์รวม 7,338 คัน ตรวจยึด 10 คัน และตรวจรถยนต์ 909 คัน ขณะที่สำนักงานขนส่งจังหวัดเพชรบูรณ์และสาขาต่าง ๆ ดำเนินการปรับตาม พ.ร.บ.รถยนต์ จากกรณีรถไม่เสียภาษี 84 คัน และอุปกรณ์ส่วนควบไม่ถูกต้อง 112 คัน ส่วน พ.ร.บ.ขนส่ง พบอุปกรณ์ส่วนควบไม่ถูกต้อง 4 คัน
ด้านสถานการณ์อุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรม “ทริปน้ำไม่อาบ” ระหว่างวันที่ 22–23 พฤศจิกายน 2568 พบเกิดเหตุ 21 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 22 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต แยกเป็น
- อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ 8 ครั้ง เจ็บ 9 คน
- อำเภอเขาค้อ 4 ครั้ง เจ็บ 4 คน
- อำเภอหนองไผ่ 3 ครั้ง เจ็บ 3 คน
- อำเภอหล่มสัก 2 ครั้ง เจ็บ 2 คน
- อำเภอวิเชียรบุรี 2 ครั้ง เจ็บ 2 คน
- อำเภอศรีเทพ 1 ครั้ง เจ็บ 1 คน
นอกจากนี้ยังพบอุบัติเหตุอื่นที่ไม่เกี่ยวกับกิจกรรม ภายในเขตอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
ด้านข้อมูลจากกลุ่มผู้ร่วมทริปแห่งหนึ่ง เล่าว่า กลุ่มมีประมาณ 250 คัน โดยแต่ละคันได้สติ๊กเกอร์ประจำทริป และอ้างว่ามี “ข้อตกลง” กับผู้จัดให้เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก แม้บางคันไม่มีเอกสารรถครบถ้วน แต่เมื่อมาถึงพื้นที่เพชรบูรณ์กลับเจอด่านตรวจเข้ม ต้องยกรถลงจากรถบรรทุกเพื่อตรวจเอกสาร และสุดท้ายต้อง “เคลียร์รถบรรทุก” เหมาค่าใช้จ่าย 2,000 บาทต่อคัน, ส่วนรถที่ขี่ลงมาสนับสนุนคิดคันละ 500 บาท และรถกระบะบรรทุกอีก 2 คัน ดูแลคันละ 1,000 บาท โดยไม่ทราบว่าเป็นด่านไหนบ้าง
จากการสังเกตภาพรวม รถที่เดินทางร่วมทริปหลายพันคันต้องแบกรับค่าใช้จ่ายมหาศาล ทั้งค่าน้ำมัน ค่าที่พัก ค่ารถบรรทุก รวมถึงกลุ่มรถตู้และรถกระบะแนววัยรุ่นสร้างตัว ทำให้เกิดคำถามจากชาวบ้านว่า “ควรมีหน่วยงานตรวจสอบเส้นทางการเงินหรือไม่?”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากประสบการณ์หลายปีที่ผ่านมา ปีนี้น่าจะเป็นปีที่มีจำนวนรถ มากที่สุด และ “มารยาทแย่ที่สุด” รถหลายกลุ่มวิ่งเต็มถนน จอดเต็มไหล่ทาง สถานีบริการน้ำมันบางแห่งต้องเรียกตำรวจมาช่วยดูแล เพราะลูกค้าทั่วไปไม่สามารถเติมน้ำมันได้
ชาวบ้านและผู้ประกอบการตามเส้นทางเสนอว่า หน่วยงานรัฐควรเริ่มจัดระเบียบตั้งแต่ต้นทาง หากปล่อยให้กิจกรรมเติบโตต่อเนื่องแบบนี้เพชรบูรณ์อาจรับภาระไม่ไหว และ “ควรยกระดับเป็นวาระแห่งชาติ” เพื่อจัดการเชิงระบบ












