เดือน: มกราคม 2025

ปราจีนบุรี – วันที่ 28 มกราคม 2568 เวลา 09.00 น. บรรยากาศเทศกาลตรุษจีนปีนี้คึกคักเป็นพิเศษที่เต็นท์จำหน่ายรถยนต์มือสอง “ท๊อปรถสวย สาขา 2” ตั้งอยู่ที่ หมู่ 3 ตำบลกรอกสมบูรณ์ อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี โดยมี นายณัฐพงษ์ ใช้เทียมวงศ์ หรือ ป๋าณัฐ อายุ 57 ปี เจ้าของเต็นท์รถพร้อมครอบครัวและพนักงาน จัดงานใหญ่แจกอั่งเปาและข้าวสาร 1,000 กระสอบให้ประชาชน

พิธีไหว้เจ้าที่และแจกข้าวสาร

ช่วงเช้าเริ่มด้วยพิธีไหว้เจ้าที่เจ้าทาง เทพยดาฟ้าดิน และบรรพบุรุษ จากนั้นมีการแสดงเชิดมังกรและเชิดสิงโตอย่างยิ่งใหญ่ สร้างความคึกคักให้กับผู้ร่วมงาน

ในช่วงสาย นายณัฐพงษ์และครอบครัวนำ ข้าวสาร 1,000 กระสอบ แจกจ่ายให้กับประชาชนที่มารอรับกว่า 1,000 คน โดยเน้นช่วยเหลือผู้ยากไร้และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ต่าง ๆ

ป๋าณัฐ: ทำบุญและให้ทานต่อเนื่อง

นายณัฐพงษ์กล่าวว่า การแจกข้าวสารในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทำบุญและช่วยเหลือชุมชนที่ตนทำต่อเนื่องมาตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน พร้อมเสริมว่าการแบ่งปันเป็นสิ่งที่ทำให้ตนและครอบครัวมีความสุขในเทศกาลตรุษจีน

ตราด – วันที่ 28 มกราคม 2568 ณ ห้องประชุมโรงแรมตราดซิตี้ อำเภอเมืองตราด สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดตราด (กกต.ตราด) นำโดย นางสาวธัญยธรณ์ ชีวะเลิศรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดตราด จัดกิจกรรม “โค้งสุดท้ายการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (Big Day)”

กิจกรรมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายดำรงค์ศักดิ์ ยอดทองดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานในพิธีเปิด โดยมีหน่วยงานภาครัฐ ภาคีเครือข่าย และเยาวชนเข้าร่วมงานอย่างคึกคัก

สร้างความตื่นตัวในโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง

นายดำรงค์ศักดิ์กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญคือการกระตุ้นให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิในวันเลือกตั้ง 1 กุมภาพันธ์ 2568 ให้มากกว่าการเลือกตั้งครั้งก่อน พร้อมทั้งลดจำนวนบัตรเสีย และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในการเลือกตั้ง

นอกจากนี้ ยังมีการรณรงค์เชิงสัญลักษณ์ด้วยการจำลองการหย่อนบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ได้แก่

• บัตรเลือกตั้งสีชมพู สำหรับเลือกนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
• บัตรเลือกตั้งสีเขียว สำหรับเลือกสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด

หลังจากนั้นได้มีการจัด ขบวนเดินรณรงค์ เพื่อเชิญชวนประชาชนในพื้นที่เทศบาลเมืองตราดให้ตื่นตัวและพร้อมไปใช้สิทธิเลือกตั้ง

เลือกตั้ง อบจ. 2568: เสียงของคุณสำคัญ

การเลือกตั้ง อบจ. ในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญในการเลือกตัวแทนที่จะเข้ามาพัฒนาพื้นที่ ซึ่งสำนักงาน กกต.ตราด ขอเชิญชวนประชาชนชาวตราดทุกคนร่วมใช้สิทธิเลือกตั้งโดยอิสระ ปราศจากการครอบงำ และคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ

ตราด – การเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตราด (อบจ.ตราด) และ สมาชิกสภา อบจ.ตราด กำลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย โดยจะมีการเลือกตั้งในวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ล่าสุด “ชลธี นุ่มหนู” ผู้สมัครนายก อบจ.ตราด พรรคประชาชน มั่นใจว่าได้รับกระแสตอบรับที่ดีขึ้นหลังจาก “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางมาช่วยหาเสียง พร้อมเผยว่า มีสัญญาณการซื้อเสียงในบางพื้นที่

“ชลธี นุ่มหนู” มั่นใจประชาชนต้องการเปลี่ยนแปลง

นาย ชลธี นุ่มหนู เปิดเผยว่า หลังจากออกหาเสียงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ อำเภอเขาสมิง ซึ่งเป็นกลุ่มเกษตรกรรม พบว่าประชาชนต้องการเปลี่ยนตัวนายก อบจ.ตราด เพราะที่ผ่านมาท้องถิ่นจังหวัดตราดไม่ได้รับการพัฒนาอย่างตรงจุดในรอบ 25 ปี ที่ผ่านมา พรรคประชาชนจึงมีนโยบายชัดเจนในการเข้ามาพัฒนา อบจ.ตราด

“ก่อนหน้านี้ผมต้องเผชิญกระแสต่อต้านพอสมควร แต่เมื่อได้นำเสนอนโยบายและแนวทางพัฒนาให้ชาวตราดรับฟัง ความคิดเห็นของประชาชนเริ่มเปลี่ยนไป โดยเฉพาะหลังจากที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เดินทางมาช่วยหาเสียง ทำให้คนตราดเห็นว่า ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลง” นายชลธีกล่าว

“ธนาธร” ลงพื้นที่ช่วยหาเสียง 3 อำเภอ 29 ม.ค. นี้

นายชลธี ยังเปิดเผยอีกว่า ในวันที่ 29 มกราคม 2568 ตั้งแต่เวลา 15.00 – 20.00 น. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จะลงพื้นที่ช่วยหาเสียงใน 3 อำเภอ ได้แก่

• ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง
• ตลาดนัดอำเภอบ่อไร่
• ริมเขื่อน ต.หนองเสม็ด อ.เมืองตราด

และในวันที่ 31 มกราคม 2568 จะมีการปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายที่ หน้าตลาดศูนย์การค้าเทศบาลเมืองตราด ตั้งแต่เวลา 16.30 – 18.00 น. เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนออกมาเลือกตั้ง

“เจริญ ชลาลัย” ยังเดินหน้าหาเสียง แม้กระแสเป็นรอง

ด้าน นายเจริญ ชลาลัย ผู้สมัครนายก อบจ.ตราด กลุ่ม “ตราดต้องเจริญ” ยืนยันว่าจะเดินหน้าหาเสียงต่อไปจนถึงวันสุดท้าย โดยเน้นการชี้แจงผลงานของอดีตผู้บริหารและแนวทางการบริหารงานของตนเอง

“ผมไม่สนใจว่าจะแพ้หรือชนะ แต่ยังคงเดินหน้าหาเสียง เพื่อให้ประชาชนตราดได้รับรู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการบริหารงานของ อบจ.ตราดในอดีต และแนวทางในการพัฒนาอนาคต” นายเจริญกล่าว

“วิเชียร ทรัพย์เจริญ” เร่งเครื่อง หาเสียงโค้งสุดท้าย

ขณะเดียวกัน นายวิเชียร ทรัพย์เจริญ ผู้สมัครนายก อบจ.ตราด และทีมงานยังคงลงพื้นที่หาเสียงอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะใน อำเภอบ่อไร่ ตำบลบ่อพลอย ตำบลหนองบอน และตำบลแสนตุ้ง อำเภอเขาสมิง เพื่อช่วยกระตุ้นคะแนนเสียงของผู้สมัครในพื้นที่

สำหรับ 31 มกราคม 2568 นายวิเชียรจะปิดท้ายการหาเสียงด้วยการปราศรัยใหญ่ที่ ตลาดซอยไร่รั้ง เทศบาลเมืองตราด เพื่อเรียกคะแนนเสียงจากประชาชนเป็นโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้ง

มุกดาหาร – สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมุกดาหาร (กกต.มุกดาหาร) จัดกิจกรรม BIG DAY รณรงค์เชิญชวนประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) และ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ในวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น.

รองผู้ว่าฯ มุกดาหาร นำขบวนรณรงค์ เดินทั่วเมือง

เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 เวลา 08.00 น. ณ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติกาญจนาภิเษก เทศบาลเมืองมุกดาหาร นายรณรงค์ เทพรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานเปิดกิจกรรม BIG DAY โดยมี นายจักรินทร์ ชาลีพุทธาพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐ ตำรวจ ทหาร ศูนย์ส่งเสริมประชาธิปไตย (ศส.ปชต.) กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) นักเรียน นักศึกษา ลูกเสืออาสา และนักศึกษาวิชาทหาร รวมกว่า 500 คน เข้าร่วมกิจกรรม

หลังเปิดงาน รองผู้ว่าฯ มุกดาหาร ได้ สาธิตวิธีการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง โดยใช้ บัตรเลือกตั้งนายก อบจ. สีน้ำตาล และ บัตรเลือกตั้ง ส.อบจ. สีฟ้าอมเขียว จากนั้นได้หย่อนบัตรลงหีบบัตรเลือกตั้งเป็นสัญลักษณ์ ก่อนนำขบวนเดินรณรงค์ไปตามเส้นทางสำคัญของตัวเมืองมุกดาหาร

ขบวนรณรงค์ทั่วเมือง กระตุ้นประชาชนออกมาใช้สิทธิ

ขบวนรณรงค์เดินไปตาม ถนนสองนางสถิตย์ ผ่านตลาดราตรี เลี้ยวขวาผ่านถนนพิทักษ์พนมเขต หน้าโรงพยาบาลมุกดาหาร และสิ้นสุดที่สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติกาญจนาภิเษก เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนตื่นตัวและออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง

กกต.มุกดาหาร ตั้งเป้าลดบัตรเสีย-เพิ่มผู้มาใช้สิทธิ

นายจักรินทร์ ชาลีพุทธาพงศ์ ผอ.กกต.มุกดาหาร เปิดเผยว่า กิจกรรม BIG DAY ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ โค้งสุดท้ายการเลือกตั้ง อบจ. โดยมีเป้าหมายให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิมากขึ้น ลดจำนวนบัตรเสีย และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกระบวนการเลือกตั้ง เพื่อให้ประชาชนใช้สิทธิอย่างอิสระ ปราศจากการครอบงำ และตระหนักถึงความสำคัญของการเลือกตั้งท้องถิ่น

อนุศักดิ์ – เสาวภา  แสนวิเศษ //  มุกดาหาร

นราธิวาส – เมื่อคืนวันที่ 25 มกราคม 2568 นายอับดุลลักษณ์ สะอิ หรือ “แบเลาะ” ผู้สมัครนายก อบจ.นราธิวาส เปิดเวทีปราศรัยครั้งใหญ่ที่สนามกีฬาเทศบาลตำบลรือเสาะ ท่ามกลางประชาชนกว่า 6,000 คน รวมตัวจาก อ.รือเสาะ และ อ.ศรีสาคร เพื่อสนับสนุนในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง

สองพรรคใหญ่ร่วมปราศรัย

เวทีครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากพรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรค คือ พรรคภูมิใจไทย และ พรรคกล้าธรรม นำโดยแกนนำสำคัญ ได้แก่ นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ และนายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ จากพรรคกล้าธรรม พร้อมด้วยนายซาการียา สะอิ น้องชายนายอับดุลลักษณ์ จากพรรคภูมิใจไทย

นายอับดุลลักษณ์เผยถึงแผนการพัฒนาจังหวัด ทั้งด้านเศรษฐกิจ การศึกษา และการท่องเที่ยว โดยยกตัวอย่างความสำเร็จในจังหวัดใกล้เคียงอย่างยะลา ปัตตานี และสงขลา ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด พร้อมท้าทายการบริหารของนายกูเซ็ง ยาวอหะซัน ซึ่งครองตำแหน่งนายก อบจ.นราธิวาสมาถึง 25 ปี

ก้าวข้ามข่าวลือ ยืนยันความพร้อม

นายอับดุลลักษณ์ยังกล่าวถึงข่าวลือเรื่องการขาดคุณสมบัติ โดยยืนยันว่าผ่านการตรวจสอบทุกขั้นตอนแล้ว พร้อมรับมือทุกความท้าทาย เพื่อยกระดับจังหวัดนราธิวาสในทุกด้าน

แกนนำพรรคมั่นใจในชัยชนะ

นายนัจมุดดีน อูมา ประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แสดงความมั่นใจในศักยภาพของทีมงาน พร้อมเน้นความสำคัญของการประสานงานกับกระทรวงต่างๆ เพื่อพัฒนาจังหวัดอย่างรอบด้าน

การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญของประชาชนทั้ง 13 อำเภอใน จ.นราธิวาส ว่าจะเลือกผู้นำแบบเดิมหรือให้โอกาสกับคนรุ่นใหม่อย่างนายอับดุลลักษณ์

ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน

สุโขทัย – เกิดเหตุสลดสะเทือนใจชาวสุโขทัย เมื่อรถกระบะชนกับรถเก๋ง ทำให้น้องจันทร์เจ้า เด็กหญิงวัย 10 ขวบ นักกีฬาซอฟท์เทนนิสดาวรุ่ง กระเด็นออกจากรถ ลอยทะลุหลังคาบ้านเสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 23.20 น. ของวันที่ 26 มกราคม 2568 บริเวณใกล้ปั๊มน้ำมัน ตำบลบ้านสวน อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย

จากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่า รถกระบะอีซูซุ ดีแม็ก ชนกับรถเก๋งนิสสัน อามิรา ทำให้รถกระบะเสียหลักพุ่งชนบ้านเรือนประชาชน และน้องจันทร์เจ้าที่นั่งมาในแค็ปรถกระบะ กระเด็นออกจากรถ ลอยทะลุหลังคาบ้านเสียชีวิตทันที นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 4 ราย

น้องจันทร์เจ้าเป็นที่รู้จักในวงการกีฬาซอฟท์เทนนิสของจังหวัดสุโขทัย เป็นนักกีฬาที่มีความสามารถและคว้ารางวัลมาแล้วมากมาย ทั้งในระดับจังหวัดและระดับประเทศ ล่าสุดเพิ่งคว้ารางวัลรองชนะเลิศจากการแข่งขันซอฟท์เทนนิสที่สนามวิทยาลัยราชมงคลธัญบุรีคลอง 6 จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2568

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความเสียใจให้กับครอบครัว เพื่อนฝูง และวงการกีฬาเป็นอย่างมาก ทุกคนต่างอาลัยรักในตัวของน้องจันทร์เจ้า เด็กหญิงที่มีอนาคตไกลในวงการกีฬา

สาเหตุของอุบัติเหตุ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านสวน กำลังเร่งสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ข้อควรระวัง เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์เตือนให้ประชาชนทุกคนขับขี่รถด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามกฎจราจร และคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้

ฤดี ธนวณิชย์วรชัย จังหวัดสุโขทัย   

เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2568 เวลา 13.30 น. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังเรือนจำจังหวัดนราธิวาส เพื่อเข้าร่วมกิจกรรม “ยุติธรรมนำสันติสุขด้วยรักและห่วงใย จากใจกระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์” เนื่องในโอกาสวันปีใหม่ โดยมุ่งเน้นการสร้างสัมพันธ์ระหว่างผู้ต้องขังคดีความมั่นคงและครอบครัว

กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อให้ผู้ต้องขังคดีความมั่นคง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ได้พบปะและใช้เวลาอันมีค่ากับญาติพี่น้อง โดยมีการจัดอาหารให้ผู้ต้องขังได้รับประทานร่วมกับครอบครัว

หนึ่งในผู้ต้องขังคดีความมั่นคงได้เปิดเผยความในใจว่า หลังจากรับโทษ ตนรู้สึกสำนึกผิดในสิ่งที่เคยทำพลาดไป และอยากเป็นตัวอย่างให้เยาวชนได้ดำเนินชีวิตในเส้นทางที่ถูกต้อง

พ.ต.อ.ทวี ยังได้พูดถึงกรณีนักกิจกรรม 9 คน ที่ถูกฟ้องในคดีอั้งยี่ซ่องโจรจากการจัดงาน “มลายูรายอ” เมื่อปี 2565 ที่อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี โดยเน้นว่าในกระบวนการยุติธรรม ผู้ถูกฟ้องยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษา อีกทั้งยังย้ำว่าภาษาที่ใช้ในกิจกรรมดังกล่าวไม่ได้มีเจตนายุยงปลุกปั่น แต่เป็นภาษาที่สร้างสันติภาพ

รมว.ยุติธรรมยังให้ความมั่นใจว่าคดีนี้จะไม่กระทบต่อการพูดคุยเพื่อสันติภาพ โดยรัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ปัญหาในพื้นที่ชายแดนใต้ เชื่อว่าหากทุกฝ่ายหันหน้าพูดคุยกัน จะช่วยสร้างความสันติสุขอย่างยั่งยืน

ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน