กอ.รมน.จังหวัดเพชรบูรณ์ ร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ป้องกันการบุกรุกป่าเขาค้อ

วันที่ 13-14 มกราคม 2568 พันเอก ธงชัย มีอนันต์ รอง ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเพชรบูรณ์ (ทหาร) ได้มอบหมายให้ชุดปฏิบัติการพิเศษ ลงพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาปางก่อและป่าวังชมภู บริเวณบ้านมุกโต ตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อตรวจสอบแนวเขตป่าและป้องกันการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง

ร่วมกันสร้างแนวกันไฟ ป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดคิด

ต่อมาในวันที่ 15 มกราคม 2568 เจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเพชรบูรณ์ ร่วมกับหน่วยป้องกันรักษาป่า และคณะกรรมการป่าชุมชนบ้านมุกโต ได้ร่วมกันสร้างแนวกันไฟบริเวณรอบสำนักสงฆ์รอยพระพุทธบาท ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าชุมชนบ้านมุกโต เพื่อป้องกันการเกิดไฟป่าและเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นได้

ความร่วมมือหลายภาคส่วน สู่การอนุรักษ์ป่าอย่างยั่งยืน

การปฏิบัติงานในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และแสดงให้เห็นถึงความร่วมมืออันดีระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน ในการร่วมกันดูแลรักษาและอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ให้คงอยู่สืบไป

คณะกรรมการธรรมาภิบาลเพชรบูรณ์ เตรียมลงพื้นที่สอดส่องโครงการใหญ่ 14 โครงการ มูลค่ากว่า 232 ล้านบาท มุ่งเน้นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการท่องเที่ยว ตามแผนปฏิบัติราชการ ปี 2568

เช้าวันนี้ (16 ม.ค.68) นายกษิต  โฆษิตานนท์ รองประธานกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดเพชรบูรณ์ ครั้งที่ 1/2568 ที่ ห้องประชุมถมอรัตน์ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์  เพื่อรับทราบการสรรหากรรมการแทนกรรมการที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ โดยจังหวัด ได้ประกาศรับรองกรรมการภาคประชาสังคม ได้แก่ พันตำรวจเอก ศรีทะนนท์  เรือนมูล และแต่งตั้งที่ปรึกษาคณะกรรมการธรรมาภิบาล ให้นายธีระชัย  มังกรทอง ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นที่ปรึกษาด้านประชาสัมพันธ์ พร้อมนี้ได้ติดตามการดำเนินงาน และพิจารณาหารือถึงแนวทางในการสอดส่องแผนงาน/โครงการ และการใช้จ่ายงบประมาณต่างๆ ตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ 2568 ของคณะกรรมการธรรมาภิบาล (ก.ธ.จ.) จังหวัดเพชรบูรณ์ ในการนี้ คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้วางแผนลงพื้นที่สอดส่องโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปี ของจังหวัดเพชรบูรณ์ ประจำปี 2568 ซึ่งมีโครงการจำนวน 14 โครงการ งบประมาณ 232,616,300 ล้านบาท  เป็นงบลงทุน 7 โครงการ งบดำเนินการ 7 โครงการ ขณะนี้ได้รับอนุมัติแล้ว 5 โครงการ อยู่ระหว่างเสนอเสนอผู้ว่าราชการจังหวัด 5 โครงการ อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียด 4 โครงการ

โดยในที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาวางแผนสอดส่องโครงการ ดังนี้ โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งและโลจิสติกส์เพื่อยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันทางหลวงหมายเลข 234 ปรับปรุงสภาพผิวจราจรทางเลี่ยงเมืองบ้านโตก-นางั่ว งบประมาณ 35.5 ล้านบาท  โครงการพัฒนาการท่องเที่ยวเมืองมรดกโลก ก่อสร้างศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเมืองศรีเทพ ตำบลคลองกระจัง งบประมาณ 30 ล้าน บาท โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวทางหลวงหมายเลข 113  ตอน สามแยกวังชมภู – ตำบลพระพุทธบาท อำเภอชนแดน งบประมาณ 30 ล้านบาทโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการขนส่ง ทางหลวงหมายเลข 2278 ปรับเพิ่มประสิทธิภาพทางหลวง ตอน หัวนา – กกโอ งบประมาณ 22 ล้านบาท โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวเส้นทางท่องเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ทางหลวงหมายเลข 2244 ปรับปรุงเส้นทาง ตอนมอดินแดง – ศรีเทพน้อย งบประมาณ 30 ล้านบาท โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยว ทางหลวงหมายเลข 2302 ติดตั้งและปรับปรุงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกความปลอดภัย ตอน กอไผ่ – บุ่งน้ำเต้า  งบประมาณ 10 ล้านบาท โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวทางหลวงหมายเลข 2196 เพิ่มประสิทธิภาพทางหลวงสู่แหล่งท่องเที่ยว ตอน นางั่ว – ทุ่งสมอ   งบประมาณ 45 ล้านบาท โดยคณะกรรมการจะได้กำหนดวันเวลาในการออกติดตามสอดส่อง ต่อไป

ขอบคุณ ภาพ/ข่าว สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบูรณ์

อำเภอหนองไผ่ จับมือทุกภาคส่วน บุกปราบยาเสพติด พบผู้เสพ 7 ราย ส่งบำบัด

วันที่ 15 มกราคม 2568 นายอำเภอหนองไผ่ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข และตำรวจ ร่วมกันปฏิบัติการตรวจค้นหาผู้เสพและผู้ติดยาเสพติดในพื้นที่ตำบลกองทูล ตามนโยบายรัฐบาลในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง

ผลการปฏิบัติ พบผู้เสพยาบ้าจำนวน 7 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งเข้ารับการบำบัดที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) กองทูล เพื่อให้ได้รับการดูแลและฟื้นฟูอย่างถูกวิธี

นายเสกสรร กลิ่นพูน นายอำเภอหนองไผ่ กล่าวว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติในการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมีเป้าหมายเพื่อลดจำนวนผู้เสพและผู้ติดยาเสพติดในพื้นที่ และป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

การดำเนินการดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างครบวงจร ตั้งแต่การป้องกัน การปราบปราม การบำบัด และการฟื้นฟู ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน

เพชรบูรณ์จัดโครงการหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน

ผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ ลงพื้นที่หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน

วันที่ 15 มกราคม 2568 นายศรัณยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานเปิดโครงการหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน ครั้งที่ 3/2568 ณ โรงเรียนอนุบาลเขาค้อ (เจริญทองนิ่มวิทยา) อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

กิจกรรมภายในงานหลากหลาย

ภายในงานมีกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ การออกหน่วยให้บริการของส่วนราชการต่างๆ การมอบทุนการศึกษาจากกองทุนพัฒนาเด็กชนบท การมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคม การมอบพันธุ์ปลา และการมอบสิ่งของช่วยเหลือแก่ประชาชน ซึ่งเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและสร้างรอยยิ้มให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่

จุดประสงค์ของโครงการ

โครงการหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน มีวัตถุประสงค์เพื่อนำนโยบายของรัฐบาลไปสู่ประชาชนอย่างทั่วถึง อำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้าถึงบริการของรัฐได้ง่ายยิ่งขึ้น และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างภาครัฐและประชาชน

ผลกระทบของโครงการ

โครงการนี้มีส่วนช่วยในการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชนในการเข้ารับบริการของภาครัฐ และยังช่วยให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อภาครัฐอีกด้วย

ขอบคุณ ภาพ/ข่าว สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบูรณ์

จังหวัดเพชรบูรณ์ เดินหน้ารับมือโรคติดต่อ สร้างเพชรบูรณ์ปลอดภัย

เพชรบูรณ์ 15 ม.ค. 68 – ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นำคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดประชุมวางแผนรับมือโรคติดต่อในพื้นที่ โดยเฉพาะโรคไข้เลือดออกที่พบการระบาดในหลายพื้นที่ และโรคไวรัสตับอักเสบซีที่พบมากในอำเภอหล่มสัก

นายศรัณยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเพชรบูรณ์ ครั้งที่ 1/2568 ณ ห้องประชุมเมืองราด ชั้น 5 อาคาร 2 ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อติดตามสถานการณ์โรคติดต่อในพื้นที่และวางแผนการป้องกันควบคุมโรค โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

จากการรายงานสถานการณ์โรคติดต่อในปี 2567 พบว่าโรคไข้เลือดออกมีการระบาดสูงในพื้นที่ตำบลเข็กน้อย อำเภอเขาค้อ และโรคไวรัสตับอักเสบซีพบมากในพื้นที่อำเภอหล่มสัก คณะกรรมการฯ จึงได้ร่วมกันวางแผนดำเนินการเพื่อควบคุมโรคดังกล่าว โดยเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน

มาตรการสำคัญที่คณะกรรมการฯ เห็นชอบ ได้แก่

  • การเฝ้าระวังโรคอย่างเข้มข้น: สร้างระบบเฝ้าระวังโรคที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพื่อตรวจพบผู้ป่วยรายใหม่ได้อย่างทันท่วงที
  • การป้องกันโรค: สร้างความรู้ความเข้าใจให้ประชาชนในการป้องกันโรคไข้เลือดออกและโรคไวรัสตับอักเสบซี รวมถึงการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย
  • การรักษาพยาบาล: เพิ่มศักยภาพในการรักษาผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกและโรคไวรัสตับอักเสบซีในทุกระดับ
  • การขอรับการสนับสนุนงบประมาณ: ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ

ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า จังหวัดเพชรบูรณ์ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ การประชุมในครั้งนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทุกภาคส่วนในการร่วมกันแก้ไขปัญหาและสร้างเพชรบูรณ์ให้เป็นจังหวัดที่ปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บ

นายอำเภอหนองไผ่ ชวนร่วมบริจาคสนับสนุนงานมะขามหวานประจำปี 2568

นายเสกสรร กลิ่นพูน นายอำเภอหนองไผ่ ร่วมกับชาวตลาดและกิ่งกาชาดอำเภอหนองไผ่ เดินรณรงค์ขอรับบริจาคสนับสนุนรางวัล ร้านเพชรบูรณ์พาโชค งานมะขามหวานประจำปี 2568 เมื่อวันพุธที่ 15 มกราคม 2568 ณ ตลาดหนองไผ่

เพชรบูรณ์ – เพื่อเป็นการส่งเสริมการจัดงานมะขามหวานนครบาลเพชรบูรณ์ ประจำปี 2568 ให้ยิ่งใหญ่สมเกียรติ นายเสกสรร กลิ่นพูน นายอำเภอหนองไผ่ พร้อมด้วยชาวตลาดและกิ่งกาชาดอำเภอหนองไผ่ ได้ร่วมกันเดินรณรงค์ขอรับบริจาคสนับสนุนรางวัล ร้านเพชรบูรณ์พาโชค ณ ตลาดหนองไผ่ โดยได้รับความร่วมมือจากร้านค้าในพื้นที่เป็นอย่างดี

งานมะขามหวานนครบาลเพชรบูรณ์ เป็นงานประจำปีที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเผยแพร่ชื่อเสียงของมะขามหวานเพชรบูรณ์ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ในปีนี้ งานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 ณ ศูนย์ราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ภายในงานมีกิจกรรมมากมาย อาทิ การประกวดมะขามหวานพันธุ์ต่างๆ การประกวดสาวงามมะขามหวาน การเดินแบบผ้าไทย รวมถึงการออกร้านจำหน่ายสินค้าและอาหารหลากหลายชนิด

นายอำเภอหนองไผ่ กล่าวเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนร่วมงานมะขามหวานนครบาลเพชรบูรณ์ ประจำปี 2568 พร้อมทั้งเพลิดเพลินไปกับสวนอาหารและวงดนตรีภายในงาน

BRN ยอมรับวางระเบิดครู ตชด. 2 พ่อลูกเสียชีวิต ครูและชาวบ้านโศกเศร้า

นราธิวาส – กลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็นยอมรับการกระทำอันโหดร้ายในการลอบวางระเบิดและยิงซ้ำ พ.ต.ท.สุวิทย์ และ ด.ต.โดม ช่วยเทวฤทธิ์ ครู ตชด. 2 พ่อลูก เสียชีวิต ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส สร้างความโศกเศร้าให้กับครูและชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างยิ่ง

เหตุการณ์สะเทือนขวัญ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา ขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินทางบนถนนสายศรีสาคร – ลูโบ๊ะยือริง คนร้ายได้ลอบวางระเบิดและใช้อาวุธปืนจ่อยิงซ้ำ ก่อนจะหลบหนีไปพร้อมกับอาวุธปืนของผู้เสียชีวิต 2 กระบอก

เสียงสะท้อนจากครูและชาวบ้าน จ.ส.ต.หญิงยามีละห์ เจ๊ะแม็ง ครูในโรงเรียนเดียวกัน กล่าวด้วยน้ำตาว่า รู้สึกเสียใจและไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงต้องเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ขณะที่ น.ส.ไซดา มะแซ ศิษย์เก่าโรงเรียน เล่าถึงความผูกพันกับครูทั้งสองและความเสียใจต่อการจากไป

ความสูญเสียครั้งใหญ่ การจากไปของ พ.ต.ท.สุวิทย์ และ ด.ต.โดม เป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการศึกษาและชุมชน เนื่องจากทั้งสองท่านทุ่มเทให้กับการศึกษาของเด็กๆ ในพื้นที่ทุรกันดาร และเป็นที่รักของชาวบ้าน

มาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้จัดทำแผนพิทักษ์กำลังพลใน 3 ระดับ และยืนยันว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยในการเดินทางมาปฏิบัติภารกิจของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเป็นไปอย่างเข้มงวด

คำถามที่ยังคงคาใจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจุดประกายคำถามเกี่ยวกับความไม่สงบในพื้นที่ และความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับผู้บริสุทธิ์

ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน

สุราษฎร์ธานีผนึกกำลังขับเคลื่อนปาล์มน้ำมันสู่มาตรฐานโลก RSPO

สุราษฎร์ธานี 15 พฤษภาคม 2567 – เกษตรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับ บริษัทเพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) และเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนปาล์มน้ำมันยั่งยืนสุราษฎร์ธานี จัดงาน Kick Off โครงการขับเคลื่อนปาล์มน้ำมัน รวมพลังสร้างปาล์มน้ำมันไทย ก้าวไกลสู่มาตรฐาน RSPO ณ โรงแรมแก้วสมุย รีสอร์ท อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีผู้แทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน และเกษตรกรเข้าร่วมกว่า 250 คน

เป้าหมายสู่ความยั่งยืน: โครงการนี้มีวัตถุประสงค์หลักในการส่งเสริมให้เกษตรกรรายย่อยในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับการรับรองกระบวนการผลิตปาล์มน้ำมันตามมาตรฐานสากล RSPO ซึ่งเป็นมาตรฐานที่รับรองว่าการผลิตปาล์มน้ำมันเป็นไปอย่างยั่งยืน ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตของเกษตรกร และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทั่วโลก

ความร่วมมือที่แข็งแกร่ง: บริษัทเพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมมือกับเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนปาล์มน้ำมันยั่งยืนสุราษฎร์ธานี ในการสนับสนุนและส่งเสริมให้เกษตรกรรายย่อยเข้าถึงองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่จำเป็นในการผลิตปาล์มน้ำมันคุณภาพสูงตามมาตรฐาน RSPO นอกจากนี้ บริษัทยังรับรองการซื้อขายผลปาล์มน้ำมันที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน RSPO จากเกษตรกรในเครือข่ายอีกด้วย

ผลประโยชน์ที่เกษตรกรได้รับ: การได้รับการรับรองมาตรฐาน RSPO จะทำให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงตลาดที่มีมูลค่าสูงขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคทั่วโลกมีความต้องการผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากวัตถุดิบที่ยั่งยืนมากขึ้น นอกจากนี้ เกษตรกรยังได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ในการผลิตปาล์มน้ำมันที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลกำไรในระยะยาว

อนาคตของปาล์มน้ำมันไทย: ปัจจุบัน ประเทศไทยมีพื้นที่รับรองตามมาตรฐาน RSPO แล้วกว่า 365,193.75 ไร่ คิดเป็น 5.7% ของพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันทั้งหมด โดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ของเกษตรกรรายย่อย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจและความมุ่งมั่นของเกษตรกรไทยในการผลิตปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืน

เสียงจากผู้เกี่ยวข้อง: นายพรพิพัฒน์ ประสิทธิ์ศุภผล รองกรรมการผู้จัดการสายงานปฏิบัติการ บริษัทเพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “มาตรฐาน RSPO เป็นโอกาสที่ดีสำหรับเกษตรกรไทยในการเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิต และสร้างความแตกต่างในตลาดโลก”

ด้านนายวิวัฒน์ มลมาลา ผู้จัดการ กลุ่มวิวาหกิจชุมชนทำเนียบปาล์ม อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า “การรวมกลุ่มกันของเกษตรกรและการดำเนินการตามมาตรฐาน RSPO จะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของราคาผลผลิต”

น้ำหนาวหนาวสุดขั้ว! แม่คะนิ้งมาเยือนต่อเนื่องเป็นวันที่สอง นักท่องเที่ยวแห่ชมความงาม ณ เพชรบูรณ์

เพชรบูรณ์ – อุณหภูมิลดต่ำสุดติดลบ 2 องศาเซลเซียส! ปรากฏการณ์แม่คะนิ้งยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ณ บ้านห้วยหญ้าเครือ อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ ทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาสัมผัสความหนาวเย็นและชมความงามของธรรมชาติที่แปลกตา

นายสุรชัย เทวสุคล ชาวบ้านห้วยหญ้าเครือ ผู้บันทึกภาพและคลิปวิดีโอปรากฏการณ์ดังกล่าว เปิดเผยว่า อากาศในช่วงกลางคืนลดลงอย่างรวดเร็ว จาก 4 องศาเซลเซียสในช่วงเย็น ลดเหลือ 0 องศาเซลเซียสในเวลา 3 ทุ่ม และลดต่ำสุดถึงติดลบ 2 องศาเซลเซียสในช่วงเช้า ทำให้เกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งเกาะตามใบไม้และหลังคาบ้าน นอกจากนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาเยี่ยมชมและถ่ายรูปกับปรากฏการณ์ธรรมชาติที่หาชมได้ยาก

สาเหตุของปรากฏการณ์แม่คะนิ้ง เกิดจากอุณหภูมิที่ลดลงต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ทำให้น้ำค้างที่เกาะอยู่ตามใบไม้และวัตถุต่าง ๆ กลายเป็นน้ำแข็ง ซึ่งบริเวณบ้านห้วยหญ้าเครือเป็นแอ่งต่ำและอาจได้รับอิทธิพลจากร่องความเย็นที่พัดมาจากภูกระดึง จึงทำให้มีความหนาวเย็นมากกว่าพื้นที่อื่น

ปรากฏการณ์แม่คะนิ้งที่น้ำหนาว ไม่เพียงสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยว แต่ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ ทำให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้น นายสุรชัย กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่หมู่บ้านของตนได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและนักท่องเที่ยว

หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ท่องเที่ยวที่แปลกใหม่ การเดินทางไปสัมผัสความหนาวเย็นและชมปรากฏการณ์แม่คะนิ้งที่น้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ

ขอขอบคุณ: ข้อมูลจากเฟซบุ๊ก Pui Surachai

เพชรบูรณ์ เดินหน้าแก้ปัญหาเด็กออกกลางคัน สู่เป้าหมาย Thailand Zero Dropout

เพชรบูรณ์ 13 ม.ค. 67 – ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลายเป็นศูนย์ (Thailand Zero Dropout) ระดับจังหวัด เพื่อบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วนในการค้นหาและส่งเสริมให้เด็กกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา

นายกกชัย ฉายรัศมีกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนที่ออกกลางคัน หรืออยู่นอกระบบการศึกษา โดยมุ่งเน้นการค้นหา ช่วยเหลือ และส่งเสริมให้เด็กเหล่านี้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาอีกครั้ง พร้อมทั้งพัฒนาศักยภาพให้สามารถเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป

มาตรการขับเคลื่อน 4 ประการ ที่คณะกรรมการฯ ได้ให้ความสำคัญ ได้แก่

  1. ค้นหา: สร้างระบบการค้นหาเด็กที่ออกกลางคันอย่างครอบคลุม
  2. ช่วยเหลือ: ให้ความช่วยเหลือด้านการศึกษาและสวัสดิการ
  3. ส่งต่อ: ส่งต่อเด็กเข้าสู่สถานศึกษาที่เหมาะสม
  4. ดูแล: ติดตามและดูแลเด็กอย่างต่อเนื่อง

การประชุมครั้งนี้ คือ การพิจารณาร่างคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการระดับอำเภอ เพื่อให้ทุกอำเภอมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนงานอย่างจริงจัง โดยมอบหมายให้คณะอนุกรรมการฯ ร่วมกันดำเนินการค้นหาเด็กที่ออกกลางคันในพื้นที่ และบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

จังหวัดเพชรบูรณ์ คือ การสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กทุกคน เพื่อให้เด็กและเยาวชนเติบโตเป็นกำลังสำคัญของประเทศ และลดปัญหาสังคมที่เกิดจากเด็กและเยาวชนที่ขาดโอกาสทางการศึกษา

ขอบคุณ ภาพ/ข่าว สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบูรณ์